สถานการณ์สินค้าสุกรและแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์สินค้าสุกร และแนวโน้ม ปี 2568
โดย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
1. สถานการณ์ ปี 2567
1.1 ของโลก
1.1.1 การผลิต
ปี 2563 - 2567 การผลิตเนื้อสุกรของโลกเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 4.62 ต่อปี โดยปี 2567 การผลิตเนื้อสุกรของโลกปริมาณรวม 116.018 ล้านตัน ลดลงจาก 116.301 ล้านตัน ของปี 2566 ร้อยละ 0.24 ซึ่งประเทศจีนยังคงเป็นผู้ผลิตสุกรอันดับ 1 ของโลก ปริมาณ 56.750 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ สหภาพยุโรป 21.250 ล้านตัน สหรัฐอเมริกา 12.684 ล้านตัน และบราซิล 4.495 ล้านตัน โดยการผลิตของสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และบราซิล เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 2.36 ร้อยละ 2.02 และร้อยละ 1.01 ตามลำดับ ขณะที่จีนมีการผลิตลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 2.05
1.1.2 การตลาด
(1) ความต้องการบริโภค
ปี 2563 - 2567 ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรของโลกเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 4.54 ต่อปี โดยปี 2567 การบริโภคเนื้อสุกรของโลกมีปริมาณรวม 114.584 ล้านตัน ลดลงจาก 115.461 ล้านตันของปี 2566 ร้อยละ 0.76 ซึ่งประเทศจีนมีการบริโภคเนื้อสุกรมากที่สุด ปริมาณ 57.952 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ สหภาพยุโรป 18.360 ล้านตัน และสหรัฐอเมริกา 9.991 ล้านตัน โดยการบริโภคของจีน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 2.99 ขณะที่สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา มีการบริโภคเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 3.07 และร้อยละ 1.65 ตามลำดับ
(2) การส่งออก
ปี 2563 - 2567 การส่งออกเนื้อสุกรของโลกลดลงในอัตราร้อยละ 5.71 ต่อปี โดยปี 2567 การส่งออกเนื้อสุกรมีปริมาณรวม 10.313 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 10.092 ล้านตัน ของปี 2566 ร้อยละ 2.19 ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกา มีการส่งออกเนื้อสุกรมากที่สุด ปริมาณ 3.244 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ สหภาพยุโรป 3.000 ล้านตัน และบราซิล 1.485 ล้านตัน โดยการส่งออกของบราซิลและสหรัฐอเมริกา เพิ่ิมขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 5.02 และร้อยละ 4.81 ตามลำดับ ขณะที่สหภาพยุโรป มีการส่งออกลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 4.00
(3) การนำเข้า
ปี 2563 - 2567 การนำเข้าเนื้อสุกรของโลกลดลงในอัตราร้อยละ 7.42 ต่อปี โดยปี 2567 การนำเข้าเนื้อสุกรมีปริมาณรวม 8.827 ล้านตัน ลดลงจาก 9.201 ล้านตัน ของปี 2566 ร้อยละ 4.06 ซึ่งประเทศ ญี่ปุ่นมีการนำเข้าเนื้อสุกรมากที่สุด ปริมาณ 1.430 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ เม็กซิโก 1.425 ล้านตัน และจีน 1.300 ล้านตัน โดยการนำเข้าของเม็กซิโกเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 5.24 ขณะที่จีน และญี่ปุ่น มีการนำเข้า ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 31.47 และร้อยละ 0.07 ตามลำดับ
1.2 ของไทย
1.2.1 การผลิต
ปี 2563 - 2567 การผลิตสุกรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 0.30 ต่อปี โดยปี 2567 มีปริมาณ การผลิตสุกร 21.723 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจาก 20.456 ล้านตัว ของปี 2566 ร้อยละ 6.19 เนื่องจากการฟื้นตัวของ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) ทำให้ปริมาณแม่พันธุ์เพิ่ม และ จำนวนสุกรเพิ่มมากขึ้น
1.2.2 การตลาด
ความต้องการบริโภค
ปี 2563 - 2567 ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรมีแนวโน้มลดลงในอัตราร้อยละ 3.16 ต่อปี ซึ่งสุกรที่ผลิตได้ใช้บริโภคภายในประเทศเป็นหลัก โดยปี 2567 มีปริมาณการบริโภคสุกร 1.612 ล้านตัน เพิ่มขึ้น จาก 1.520 ล้านตัน ของปี 2566 ร้อยละ 6.02
(2) การส่งออก
ปี 2563 - 2567 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกสุกรพันธุ์ ลดลงในอัตราร้อยละ 51.53 และร้อยละ 49.70 ต่อปี ตามลำดับ โดยปี 2567 ไทยส่งออกสุกรพันธุ์ ปริมาณ 53,000 ตัว มูลค่า 303 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 47,827 ตัว ของปี 2566 ร้อยละ 10.82 ขณะที่มูลค่าลดลงจาก 399 ล้านบาท ของปี 2566 ร้อยละ 23.95
ปี 2563 - 2567 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกสุกรมีชีวิตอื่นๆ ลดลงในอัตราร้อยละ 53.26 และร้อยละ 59.01 ต่อปี ตามลำดับ โดยปี 2567 ไทยส่งออกสุกรมีชีวิต ปริมาณ 108,000 ตัว มูลค่า 490 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 81,858 ตัว มูลค่า 380 ล้านบาท ของปี 2566 ร้อยละ 31.94 และร้อยละ 28.71 ตามลำดับ
ปี 2563 - 2567 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกเนื้อสุกรแช่เย็นแช่แข็ง ลดลงในอัตรา ร้อยละ 50.32 และร้อยละ 51.81 ต่อปี ตามลำดับ โดยปี 2567 ไทยส่งออกเนื้อสุกรแช่เย็นแช่แข็ง ปริมาณ 2,140 ตัน มูลค่า 220 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นจาก 1,965 ตัน ของปี 2566 ร้อยละ 8.88 ขณะที่มูลค่าลดลง จาก 258 ล้านบาท ของปี 2566 ร้อยละ 14.63 โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง เมียนมา และ สปป.ลาว
ปี 2563 - 2567 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกเนื้อสุกรแปรรูป ลดลงในอัตราร้อยละ 13.33 และร้อยละ 10.79 ต่อปี ตามลำดับ โดยปี 2567 ไทยส่งออกเนื้อสุกรแปรรูป ปริมาณ 4,780 ตัน มูลค่า 1,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 3,990 ตัน มูลค่า 939 ล้านบาท ของปี 2566 ร้อยละ 19.81 และร้อยละ 13.38 ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น กัมพูชา ฮ่องกง และ สปป. ลาว
ทั้งนี้ ปริมาณการส่งออกในภาพรวมเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความเข้มงวดด้านระบบความปลอดภัยทางช่ีวภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์สุกรไทยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ (3) การนำเข้า
ปี 2563 - 2567 ปริมาณและมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อสุกร ลดลงในอัตราร้อยละ 8.37 และร้อยละ 0.50 ต่อปี ตามลำดับ โดยปี 2567 ไทยนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรปริมาณ 274 ตัน มูลค่า 94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 220 ตัน มูลค่า 79 ล้านบาท ของปี 2566 ร้อยละ 24.90 และร้อยละ 19.17 ตามลำดับ โดยนำเข้าจากประเทศในสหภาพยุโรป ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศส และเดนมาร์ก
ปี 2563 - 2567 ปริมาณและมูลค่าการนำเข้าส่วนอื่น ๆ ที่บริโภคได้ของสุกร (หนัง ตับ และ เครื่องในอื่น ๆ) ลดลงในอัตราร้อยละ 17.83 และร้อยละ 22.82 ต่อปี ตามลำดับ โดยปี 2567 ไทยนำเข้าส่วนอื่น ๆ ที่บริโภคได้ของสุกร ปริมาณ 10,890 ตััน มูลค่า 155 ล้านบาท ลดลงจากปริมาณ 21,437 ตัน มูลค่า 351 ล้านบาท ของปี 2566 ร้อยละ 49.20 และร้อยละ 55.80 ตามลำดับ โดยนำเข้าจากประเทศสเปน
(4) ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้
ปี 2563 - 2567 ราคาที่เกษตรกรขายได้ลดลงในอัตราร้อยละ 0.23 ต่อปี โดยปี 2567 ราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 68.80 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 77.99 บาท ของปี 2566 ร้อยละ 11.78 เนื่องจากปริมาณผลผลิตสุกรออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
2) ราคาส่งออก
ปี 2563 - 2567 ราคาส่งออกเนื้อสุกรแช่เย็นแช่แข็ง ลดลงในอัตราร้อยละ 2.95 ต่อปี ขณะที่ราคาส่งออกเนื้อสุกรแปรรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.94 ต่อปี โดยปี 2567 ราคาส่งออกเนื้อสุกรแช่เย็นแช่แข็งและเนื้อสุกรแปรรูป เฉลี่ยกิโลกรัมละ 103.00 บาท และ 223.30 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 131.10 บาท และ 235.45 ของปี 2566 ร้อยละ 21.43 และร้อยละ 5.29 ตามลำดับ
3) ราคานำเข้า
ปี 2563 - 2567 ราคานำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อสุกร ส่วนอื่น ๆ ที่บริโภคได้ของสุกร และตับสุกร เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 8.76 ร้อยละ 5.10 และร้อยละ 1.85 ต่อปี ตามลำดับ โดยปี 2567 ราคานำเข้าผลิตภัณฑ์ เนื้อสุกร ส่วนอื่น ๆ ที่บริโภคได้ของสุกร และตับสุกร เฉลี่ยกิโลกรัมละ 347.00 บาท 214.50 บาท และ 19.60 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 360.77 บาท 233.24 บาท และ 24.99 บาท ของปี 2566 ร้อยละ 3.81 ร้อยละ 8.03 และ ร้อยละ 21.56 ตามลำดับ
2. แนวโน้มปี 2568
2.1 ของโลก
2.1.1 การผลิต
ปี 2568 คาดว่าการผลิตเนื้อสุกรของโลกจะมีปริมาณ 115.130 ล้านตัน ลดลงจากปริมาณ 116.018 ล้านตัน ของปี 2567 ร้อยละ 0.77 โดยการผลิตของประเทศจีนและสหภาพยุโรป คาดว่ามีปริมาณ 55.500 ล้านตัน และ 20.900 ล้านตัน ลดลงจากปริมาณ 56.750 ล้านตัน และ 21.250 ล้านตัน ของปี 2567 ร้อยละ 2.20 และร้อยละ 1.65 ตามลำดับ ขณะที่การผลิตของบราซิล และสหรัฐอเมริกา คาดว่าเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 1.01 และร้อยละ 2.03 ตามลำดับ
2.1.2 การตลาด
(1) ความต้องการบริโภค
ปี 2568 คาดว่าความต้องการบริโภคเนื้อสุกรของโลกจะมีปริมาณรวม 113.782 ล้านตัน ลดลงเล็กน้อยจากปริมาณ 114.584 ล้านตัน ของปี 2567 ร้อยละ 0.70 เนื่องจากประเทศที่สำคัญของโลก ได้แก่ จีน ซึ่งมีสัดส่วนในตลาดโลกร้อยละ 56.80 คาดว่าจะบริโภคเนื้อสุกรลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 1.99
(2) การส่งออก
ปี 2568 คาดว่าการส่งออกเนื้อสุกรของโลกจะมีปริมาณรวม 10.418 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 10.313 ล้านตัน ของปี 2567 ร้อยละ 1.02 โดยคาดว่าสหรัฐอเมริกามีการส่งออกมากที่สุด ปริมาณ 3.354 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ สหภาพยุโรป 2.950 ล้านตัน บราซิล 1.485 ล้านตัน และแคนาดา 1.450 ล้านตัน ซึ่งการส่งออก ของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 3.39 ขณะที่การส่งออกของสหภาพยุโรปลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 1.67
(3) การนำเข้า
ปี 2568 คาดว่าการนำเข้าเนื้อสุกรของโลกจะมีปริมาณรวม 9.026 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 8.827 ล้านตัน ของปี 2566 ร้อยละ 2.25 เนื่องจากประเทศที่ผู้นำเข้าที่สำคัญของโลก โดยคาดว่า เม็กซิโกมีการนำ เข้าเนื้อสุกรมากที่สุด ปริมาณ 1.435 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น 1.430 ล้านตัน และจีน 1.400 ล้านตัน ซึ่งการนำเข้าของเม็กซิโกและจีนเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 0.70 และร้อยละ 7.69 ตามลำดับ
2.2 ของไทย
2.2.1 การผลิต
ปี 2568 คาดว่าการผลิตสุกรมีปริมาณ 21.370 ล้านตัว ลดลงจาก 21.723 ล้านตัว ของปี 2567 ร้อยละ 1.63 เนื่องจากภาครัฐฯ กำหนดมาตรการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสุกร โดยขอความร่วมมีอผู้เลี้ยงรายใหญ่ปรับลดจำนวนแม่พันธุ์สุกร
2.2.2 การตลาด
(1) ความต้องการบริโภค
ปี 2568 คาดว่าการบริโภคสุกรมีปริมาณ 1.585 ล้านตัน ลดลงจากปริมาณ 1.612 ล้านตััน ของปี 2567 ร้อยละ 1.69
(2) การส่งออก
ปี 2568 คาดว่าการส่งออกสุกรมีชีวิต เนื้อสุกรแช่เย็นแช่แข็งและเนื้อสุกรแปรรูป จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2567 เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศคู่ค้ามีความเชื่อมั่นในมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ของไทย ประกอบกับนโยบายผลักดันการส่งออกเนื้อสุกรไปยังต่างประเทศของภาครัฐ
(3) การนำเข้า
ปี 2568 คาดว่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรและส่วนอื่นๆ ที่บริโภคได้ของสุกร (หนัง ตับ และเครื่องในอื่นๆ) จะใกล้เคียงกับปี 2567
(4) ราคา
ปี 2568 คาดว่าราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้จะใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2567 เนื่องจากการปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นผลจากการดำเนิน มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาสุกรโดยการผลักดันการส่งออกของคณะกรรมการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร และ การปรับลดกำลังการผลิตภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม เนื้อสุกรเป็นสินค้าที่มีมาตรการควบคุมราคา? ทำให้ราคาปรับเพิ่ิมไม่มากนัก?
2.3 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการผลิตหรือการส่งออก
ปัจจัยบวก
1) การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความต้องการสุกรทั้งในประเทศและตางประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็น ปัจจัยบวกที่จะจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มปริมาณการผลิตสุกรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
2) ภาวะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ยังคงมีอยู่ในประเทศผู้ผลิตของภูมภาคเอเชีย และสหภาพยุโรป ทำให้การผลิตผันผวน เป็นโอกาสในการส่งออกของไทย
ปัจจัยลบ
1) ต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าอาหารสัตว์ ค่าพลังงาน และค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ อาจส่งผลต่อการตัดสินใจผลิตของเกษตรกร
2) ผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สุกรไทยลดลง